วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวเห็ด

ก๋วยเตี๋ยวเห็นนี้ มีคุณค่าทางโภชนาที่ดีจากเห็นที่เอามาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพราะเห็ดต่างๆ นั้น มากไปด้วยสารอาหาร องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้ทำการวิเคราะห์ทางเคมีออกมา ผลปรากฏว่า เห็ดหอมนี้มีของดีอยู่มากมาย มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ และวิตามินต่างๆ มากมายในปริมาณที่สูงอีกด้วย

นอกจากนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติญี่ปุ่นซึ่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแพทศาสตร์แห่งรัฐเซาท์แคโรไรนา สหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำการวิเคราะห์วิจัยเรื่องของเห็ดหอม ผลปรากฏออกมาว่า ในเห็นหอมนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยสารสำคัญๆ คือ มีสารที่ชื่อว่า เลนติแนน(Lentinan) มีสรรพคุณในการลดคอเลสเตอรอลได้ดี

มีสารที่ชื่อ เอริทาดินีน (Eritadenin) อีกตัวหนึ่งในเห็ดหอมด้วย นับว่าเป็นสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มะเร็งในกระเพราะอาหารและมะเร็งในลำไส้

นอกจากนี้แล้วในเห็ดหอมยังมีสารสำคัญอยู่อีกคือ เอ ซี 2 พี (AC 2P) ที่ออกฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัดได้ดี แล้วก็ต่อต้านเชื้อไว้รัสที่ทำให้เกิดโรคหัด และโรคโปลิโออีกด้วย

นอกจากนี้แล้วก๋วยเตี๋ยวเห็ดชามสำคัญนี้ยังเอาเห็ดฟางมาผสมผสานกันเข้าไปกับเห็ดหอมอีกอย่างหนึ่ง เพิ่มสรรพคุณทางยาและเพิ่มของดีทางสารอาหารเข้าไปอีกอักโขทีเดียว นอกจากนี้เห็ดฟางยังออกฤทธิ์สร้างความสมดุลให้กับเม็ดเลือดขาว ช่วยสร้างเม็ดเลือดขาวให้เพิ่มปริมาณได้

คราวนี้ลองมาพิจารณาดูเครื่องปรุงและส่วนผสมต่างๆ ของ ก๋วยเตี๋ยวเห็ดกันได้ดังต่อไปนี้

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

หมูบะช่อปรุงรส 1 แผ่น

สันในหมู แช่น้ำปลาย่างแล้ว

ฉีกเป็นเส้นหนากำลังพอดี 10 ชิ้น

เห็ดหอม ลวก หั่นเป็นชิ้นหนาๆ 3 ดอก

เห็ดฟาง ลวก ผ่าซีก 3 ดอก

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีปรุง

ก่อนอื่นให้จัดการลวกเห็ดหอม เห็ดฟางแล้วใส่ลงในที่ก้นชามก๋วยเตี๋ยวก่อน ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วใส่ลงในชาม เริ่มปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ คือ น้ำปลา ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลืองปรุงรส เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง กุ้งแห้ง ตังฉ่าย เอาหมูบะช่อที่ลวกแล้ว วางไว้บนเส้นก๋วยเตี๋ยว เอาเนื้อหมูสันในที่แช่น้ำปลาดีแล้วมาย่าง

เอาน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวราดลงในชาม ใส่ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น กระเทียมเจียว ตามลงไป

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นหมู

ในปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตลูกชิ้นหมูออกมาสู่ตลาดมากมาย ไม่ต้องมานั่งทำเองให้เหนื่อยยากต่อไป เพียงไปซื้อลูกชิ้นหมูมาจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นหมูสูตรพิเศษนี้ แปลกและแตกต่างไปกว่า ก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นหมูที่ปรุงขายกันอยู่พอสมควร แต่รับรองว่าอร่อยดีเช่นเดียวกัน ลองกันมาพิจารณาดูเครื่องปรุง และส่วนผสมของก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นหมูกันได้ดังต่อไปนี้

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

ลูกชิ้นหมู 9 ลูก

หมูบะช่อปรุงรส 1 แผ่น

ตับหมู ลวกให้สุก 3 ชิ้น

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ½ ช้อนชา

ใบโหระพาเด็ดเป็นใบๆ 10 ใบ

ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีปรุง

เด็ดใบโหระพาประมาณ 10 ใบ วางลงในก้นชามก๋วยเตี๋ยวก่อนอื่น จัดการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ชามตามลงไป ใส่น้ำปลาซอสถั่วเหลืองปรุงรส ตังฉ่าย ซีอิ้วขาว เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง

เอาหมูบะช่อลวก ตับหมูมาลวกใส่ลงไปอีก ตักเอาลูกชิ้นหมูที่กำลังร้อนๆ ใส่ลงไปตักเอาน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวใส่ลงไปให้พอดีๆ ตามวิธีการใส่ผักชี ต้นหอม พริกไทยป่น และกระเทียมเจียว

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้ม

ความจริงก๋วยเตี๋ยวใส่ไข่ต้มนี้ ก็ไม่ค่อยมีผู้ปรุงกันเท่าไร เห็นมีอยู่เจ้าหนึ่งก็ที่ด้านหน้าทางขึ้นเขาวัง จังหวัดราชบุรี ปรากฏว่ามีผู้ไปอุดหนุนกันมากพอสมควร คงจะเห็นว่าแปลกดีนั่นเอง

ที่จริงแล้วก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มที่ราชบุรีนี้ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวธรรมดานั่นเอง แต่เอาไข่ต้มผ่า 4 เสี้ยว เอามาใส่ให้ 2 เสี้ยว ที่นี่เขาเอาไข่ต้มมาใส่ลงไปในก๋วยเตี๋ยว แต่สำหรับผู้เขียนนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกัน เพราะเป็นการเอาไข่ไก่มาต้ม ผิดไปกว่าที่อื่นอย่างแน่นอน กล่าวคือ มีการตั้งหม้อน้ำให้เดือดอ่อนๆ เอาไว้ เวลาจะเอาไข่ไก่มาใส่ในก๋วยเตี๋ยวนั้น จะต้องต่อยไข่ลงไปในถ้วยเล็กๆ ก่อน เพื่อดูว่าเป็นไข่สดที่ดี ไข่แดงยังคงรูปร่างอยู่ดี

เทไข่ลงไปในน้ำเดือดอ่อนๆ นั้นอย่างเบามือ ให้ไข่สุกกำลังพอเหมาะ มีน้ำมันตานีอยู่ด้านใน ก็เอาตะแกรงช้อนขึ้นมาทันที

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

หมูบะช่อปรุงรส 1 แผ่น

ตับหมู ลวกให้สุก 3 ชิ้น

เนื้อหมู ลวกให้สุก 5 ชิ้น

ไส้หมูอ่อน ต้มให้เปื่อย

หั่นเป็นท่อนยาว 3 เซนติเมตร 2 ท่อน

ไข่ไก่ต้ม 1 ฟอง

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

ต้อนหอม ผักชี

ยอดมะพร้าวอ่อน ผักกาดหอม

วิธีปรุง

ก่อนอื่นให้ลวกยอดมะพร้าวอ่อนใส่รองก้นชามเสียก่อน แล้วเด็ดใบผักกาดหอมสดๆ วางลงไป 1 ใบ จัดการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ตามลงไปลวก ใส่ตังฉ่าย กุ้งแห้ง หมูบะช่อลวก ตับหมูลวก ไส้หมูอ่อนลวก วางไข่ไก่ต้มแบบพิเศษตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลืองปรุงรส เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง

โรยพริกไทยป่น ใส่ต้นหอม ผักชี ใส่น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวให้พอเหมาะพอดี ใส่กระเทียมเจียวด้วย

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มส้ม

ในความจริงแล้วก๋วยเตี๋ยวหมูต้มส้มมีมานานแล้วในสมัยก่อน แต่ในที่นี้เอามาปัดฝุ่นและดัดแปลงเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูต้มส้มสูตรพิเศษกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะเคยมีอาแปะที่เคยรู้จักแกปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูต้มส้มกันมาแล้วในอดีต ซึ่งผู้เขียนก็ได้เคยลิ้มชิมรสชาติกันมาก่อนแล้วสมัยเด็กๆ ที่ปทุมธานี ในยุคสมัยเมื่อประมาณ 59 ปีมาแล้ว นานพอดูทีเดียว

หากไม่เอามาพูดถึงก็คงจะขาดของดีคือก๋วยเตี๋ยวที่แปลกรสอีกอย่างหนึ่ง เผื่อท่านที่สนใจจะเอาไปปรุงบริโภคกันในยามที่ว่างจากการงาน หรือมีการเอาไปปรุงเป็นการค้าก็ไม่ว่าอะไร

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

หมูบะช่อปรุงรส 1 แผ่น

เนื้อหมู ลวกให้สุก 5 ชิ้น

ตับหมู ลวกให้สุก 3 ชิ้น

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

มะขามเปียก 2 ช้อนชา

ถั่วงอก ยอดและต้นคะน้า

ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีปรุง

ก่อนอื่นให้จัดการลวกผัก แล้วเอามารองก้นชามก๋วยเตี๋ยวเสียก่อน ให้ยอดและต้นคะน้า ถั่วงอกดิบพอสุกๆ ดิบๆ จัดการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยววางลงในชาม ใส่เนื้อหมู หมูบะช่อ ตับหมูที่ลวกแล้วลงไป เอาชามมาอีก 1 ใบ ใส่กุ้งแห้ง น้ำปลา ซีอิ้วขาว ตังฉ่าย เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียกลงไป

แล้วเอาน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวใส่ลงไปพอประมาณ แล้วคนให้เข้ากันดีราดน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวลงไปในชาม ใส่ต้นหอม ผักชีหั่น พริกไทยป่น เสิร์ฟได้ทันที เวลากินก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น ถั่วลิสงคั่วป่น หรือน้ำปลาดี จนพอใจ

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูย่าง

เป็นสูตรใหม่อีกสูตรหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่อปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูย่างออกมาเรียบร้อย แต่ทว่าคงจะหากินได้ลำบากสักหน่อย เนื่องจากไม่มีผู้ปรุงออกมาให้กินกันนัก อาจจะมีอยู่บ้างก็คงจะน้อย เคล็ดลับที่ไม่ลับนั้นอยู่ที่การเอาซี่โครงหมู ที่มีเนื้อ หนัง เส้นเอ็นติดอยู่มาปรุงกัน เอามาหมักด้วยเครื่องปรุงรสให้ดีเสียก่อนเอาไปย่างด้วยเตาไฟจากเตาถ่าน แล้วจึงเอามาปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูย่างกันอีกครั้งหนึ่ง

ลงมาพิจารณาเครื่องปรุงและส่วนผสมของซี่โครงหมูย่างกันก่อนก็ได้ ว่ามีอะไรอยู่บ้าง มากน้อยเพียงไร วิธีการปรุงเป็นอย่างไร ดังต่อไปนี้

เครื่องปรุง

ซี่โครงหมู สับเป็นชิ้นๆ ยาว 3 เซนติเมตร 1 กิโลกรัม

ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ช้อนชา

ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

พริกไทยดำ โขลกหยาบๆ 3 ช้อนโต๊ะ

รากผักชี โขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมหัวเล็ก โขลกละเอียด 3 หัว

วิธีปรุง

เอาซี่โครงหมูที่ล้างทำความสะอาดแล้ว สับเป็นชิ้นๆ แล้วใส่กะละมังใบย่อม ทำการหมักด้วยเครื่องปรุงรสและส่วนผสมต่างๆ เป็นเวลา 30 นาที เอาไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟปานกลางให้สุกและเหลืองกรอบพอสมควร

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

ต้นหอม ผักชี

ใบตำลึงอ่อน เด็ดเป็นใบๆ ถั่วฝักยาว หั่นแฉลบ

พริกไทยป่น

วิธีปรุง

ก่อนอื่นให้จัดการลวกถั่วฝักยาวและใบตำลึงอ่อนวางลงที่ก้นชามก๋วยเตี๋ยว ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ลงในชามแล้วเติมน้ำซุปลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลืองปรุงรส เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง ตังฉ่าย กุ้งแห้ง ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น กระเทียมเจียว วางซี่โครงหมูย่างลงไป เรียงกันพองาม 5-6 ชิ้น ปรุงรสเอาเองเวลากินด้วยพริกขี้หนูแห้งคั่ว น้ำตาลทราย พริกดองน้ำส้ม หรือถั่วลิสงคั่วป่น

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวน้ำขาหมู

ขาหมูนั้นเอร็ดอร่อยมากเมื่อเอามาต้มพะโล้กัน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่ในบรรดาอาหารต่างๆ โดยเฉพาะตามร้านข้าวแกงทั้งหลายนั้นมักจะมีหมูพะโล้อยู่ด้วย ขาหมูนั้นย่อมมีหนัง เส้นเอ็นที่เคี้ยวได้กำลังอร่อยไม่เหนียวเกินเคี้ยวและไม่เปื่อยกำลังพอดี

ความจริงแล้วก๋วยเตี๋ยวขาหมูนี้ เอามาปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำก็อร่อย เอามาปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งก็ได้รสชาติที่ดีทั้งสิ้น อีกประการหนึ่งก็ต้องกล่าวเอาไว้ ณ ที่นี้อีกด้วยว่าเอาไปปรุงเป็นต้มยาก็ได้อีกด้วย จะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ บะหมี่ต้มยำ หมี่ต้มยำ วุ้นเส้นต้มยำ ก็ได้เสมอ

ให้เลือกขาหมูดีๆ มาปรุงกัน ส่วนมากแล้วมักจะใช้ขาหน้ากันมากเพราะมีเนื้อมากกว่าขาหลังนั่นเอง เอามาลนไฟ ขูดขนออก จากนั้นก็เอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆ กำลังพอเหมาะ เอามาล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อน ใส่ลงไปในหม้อต้มหม้อใหญ่ เอาน้ำสะอาดใส่ลงไปให้ท่วมชิ้นของขาหมู ยกเอาขึ้นตั้งบนเตาไฟ เคี่ยวไปนานๆ หากน้ำแห้งก็เติมน้ำได้อีก

ในที่นี้เป็นการปรุงขาหมูเพียง 2 กิโลกรัม เท่านั้น โดยใช้น้ำสะอาดเติมลงไปเพื่อเคี่ยวขาหมูนี้ 3 ลิตร

เครื่องปรุง

ขาหมูขาหน้า 1 ขา

ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ้วดำ 2 ช้อนชา

กระเทียม ชนิดหัวเล็ก 3 หัว

รากผักชี มัดไว้ด้วยเชือก 20 ราก

พริกไทยดำ บุบพอแตก 20 เม็ด

โป๊ยกั้ก 2 ดอก

อบเชย ยาว ½ นิ้ว 1 ชิ้น

ข่าแก่ ทุบยาว 1 นิ้ว 1 ชิ้น

น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 2 ช้อนชา

ซอสถั่วเปลืองปรุงรส 2 ช้อนชา

วิธีปรุง

จัดการเคี่ยวขาหมูและเครื่องปรุงต่างๆ เคี่ยวไปจนขาหมูเปื่อยกำลังพอดีๆ เคี่ยวแล้วไม่เหนียว แล้วก็ไม่เปื่อยจนและไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เมื่อเคี่ยวขาหมูไปนานๆ น้ำที่เคี่ยวก็จะแห้งลงไปอย่างแน่นอนให้เติมน้ำลงไปอีกให้พอดีกับระดับเดิมเอาไว้

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

ขาหมู เคี่ยวเรียบร้อยแล้ว สับเป็นชิ้นๆ 5-6 ชิ้น

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ½ ช้อนชา

น้ำปลา ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง ½ ช้อนชา

น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

ยอดและต้นคะน้า หั่นเป็นเส้นบางๆ ลวกให้สุก

ต้นหอม ผักชี

พริกไทยป่น

วิธีปรุง

เอาผักคะน้าลวกใส่ลงไปในก้นชาม เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวลวกแล้ววางลงบนผักคะน้า ใส่ขาหมูที่เตรียมเอาไว้ลงไปอีก ใส่น้ำซุปลงไปให้พอดี ใส่ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลืองปรุงรส น้ำปลา เครื่องปรุงรส รสหมูชนิดผง น้ำตาลทราย

ใส่ตังฉ่าย กระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น เสิร์ฟได้ขณะกำลังร้อน ซึ่งผู้บริโภคก็จะต้องเติมเครื่องปรุงรสต่างๆ อีกตามความชอบและถูกปาก อาจจะมีพริกขี้หนูแห้งคั่วป่น น้ำส้มพริกดอง น้ำตาลทราย

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวน้ำเครื่องในหมู

ก๋วยเตี๋ยวน้ำเครื่องในหมู อร่อยด้วยเครื่องในหมูหลากหลายชนิดที่เดียว เอามารวมกันไว้ในก๋วยเตี๋ยวชามนี้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด อย่างละเล็กอย่างละน้อย ผสมผสานเข้าด้วยกันแล้วปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำอย่างได้รสชาติที่สุดยอด ซึ่งมีน้ำซุปกลมกล่อม นุ่มนวล และเอร็ดอร่อยเป็นที่สุด

ความจริงก็เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตามธรรมดานั่นเองแต่เอาเครื่องในหมูมาเป็นเครื่องปรุงที่สำคัญมากกว่าที่ปรุงกันอยู่ทั่วไป รวมทั้งเอาผักบางชนิดที่มีคุณค่ามาปรุงด้วย ลองมาพิจารณาดูเครื่องปรุงและส่วนผสมต่าง ของก๋วยเตี๋ยวน้ำเครื่องในหมูชามนี้กันได้ดังต่อไปนี้

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

หมูบะช่อ 1 แผ่น

ตับหมู ลวกให้สุก 2 ชิ้น

หัวใจหมู ลวกให้สุก 2 ชิ้น

ไส้อ่อนหมู ต้มเปื่อยหั่นยาว 1 ½ นิ้ว 2 ชิ้น

ปอดหมู ต้มให้สุกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ 2 ชิ้น

ม้ามหมู ต้มให้สุกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ 2 ชิ้น

เซี่ยงจี้หมู ลวกให้สุกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ 2 ชิ้น

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่มีสี 5 ตัว

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

น้ำปลา ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

หน่อไม้ฝรั่ง หั่นเป็นท่อนสั้นๆ 3 ท่อน

ผักกาดหอม หั่นเป็นชิ้นๆ 1 ใบ

แครอต หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีปรุง

ในที่นี้สำหรับผัก ให้นำเอาผักที่แปลกสักหน่อยมาปรุง จะออกรสชาติที่ดีเป็นพิเศษ ใช้ผักกาดหอมรองก้นชาม เอาหน่อไม้ฝรั่งกับแครอตมาลวกใส่ที่ก้นชาม ลวกหมูบะช่อเป็นแผ่นๆ แล้วจัดการลวกเครื่องในหมู เช่น ตับหมู หัวใจหมู เซี่ยงจี้หมู ส่วนปอดหมู ไส้หมูอ่อน ม้ามหมู ต้องต้มมาก่อนแล้วเอามาหั่นใส เพราะไส้หมูอ่อนนั้นได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า จะต้องต้มจนเปื่อยเสียก่อนตามวิธีการ จัดการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวตามไปทันที

สำหรับม้ามหมูนั้นก็จะต้องทำความเข้าใจอีกนิดหน่อยว่าต้องต้มให้สุกเสียก่อน ขืนเอาไปลวกทันที น้ำจะออกมาดำน่ารังเกียจ

จากนั้นปรุงด้วยตังฉ่าย น้ำปลา ซีอิ้วขาว เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง กุ้งแห้ง ตักน้ำซุปใส่ลงไปพอดีๆ โรยต้นหอม ผักชี ให้น่ากินยิ่งขึ้น พริกไทยและกระเทียมเจียวลืมไม่ได้เลย เพราะช่วยชูรสชาติ ให้โอชะเสมอมา

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวน้ำหมู

ก๋วยเตี๋ยวน้ำหมูนั้น อร่อย กินได้สะดวก ง่ายต่อการปรุง เอามาเป็นอาหารมือกลางวันได้อย่างเรียบง่ายและเหมาะสม มากไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนทั้ง 5 หมู่

ก๋วยเตี๋ยวหมูนั้น เปิดตัวมาเก่าแก่มาก โดยชาวจีนนั่นเอง ก่อนที่จะมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวหมูนั้นจะปรุงเป็นเส้นใหญ่หรือเส้นเล็กก็ได้ทั้งสิ้น จะปรุงเป็นเส้นบะหมี่หรือเส้นหมี่ก็ได้ น้ำซุปก็เป็นเช่นเดียวกันกับน้ำซุปที่ใช้กับก๋วยเตี๋ยวหมู่นั่นเอง ไม่มีอะไรพิสดารเลย การปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูนี้สามารถปรุงได้อย่างรวดเร็วมาก ลองพิจารณากันได้ดังต่อไปนี้

เครื่องปรุง

เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม

หมูบะช่อ ปรุงรส ลวกเป็นแผ่นแบนๆ 1 แผ่น

เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้น ลวกให้สุก 5 ชิ้น

ตับหมู หั่นเป็นชิ้น ลวกให้สุก 3 ชิ้น

กุ้งแห้งตัวเล็กชนิดไม่ใส่สี 5 ตัว

ตังฉ่าย 1 ช้อนชา

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา

น้ำปลาดี ½ ช้อนชา

ซีอิ้วขาว ½ ช้อนชา

กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา

ถั่วงอกดิบ

ยอดตำลึงอ่อน 4-5 ใบ

แครอต หั่นเป็นเส้นบางๆ 1 ช้อนชา

ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น

วิธีปรุง

ก่อนอื่นให้จัดการลวกผักที่เอามาปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูนี้เสียก่อนลวกแล้วใส่ลงไปชามก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ แล้วลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว จะเป็นเส้นอะไรก็ตามแต่ใส่ลงไปซ้อนกับผักต่างๆ ที่ลวกไว้ จากนั้นเอาหมูบะช่อมาทาลงในทัพพี แช่ลงไปในน้ำเดือดที่เป็นน้ำซุป เอามาวางบนเส้นก๋วยเตี๋ยวข้างหนึ่ง ลวกเนื้อหมูสดวางลง ลวกตับหมูสดวางลงอีกบนเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่กุ้งแห้ง ตังฉ่าย น้ำปลา ซีอิ้วขาว

เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง ตักน้ำซุปราดลงไปในปริมาณที่พอดีๆ ใส่กระเทียมเจียวลงไป โรยพริกไทยใส่ต้นหอม ผักชี เสิร์ฟได้ทันทีขณะกำลังร้อนๆ

วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การเคี่ยวเนื้อเปื่อยให้เปื่อยเร็วขึ้น

การเคี่ยวเนื้อเปื่อยให้เปื่อยเร็วขึ้น

เอาชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ๆ ทั้งก้อนใส่ลงไปในหม้อต้ม ยกเอาขึ้นตั้นบนเตาไฟ วิธีการแบบดั้งเดิมนั้นเขาจะเคี่ยวให้เดือนด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ เป็นเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง

ซึ่งวิธีการนี้เป็นการเสียเวลามากมายเหลือเกิน อีกทั้งยังเปลืองความร้อนมาก ต้องสูญเสียเงินซื้อแก๊สไม่น้อย

มีวิธีการเคี่ยวเนื้อเปื่อยที่น่าสนใจมากมาแนะนำให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่า จัดการเร่งไฟให้น้ำเดือดพล่านทันที ต่อมาก็เอาก้อนน้ำแข็งสัก2 กิโลกรัมใส่ลงไปในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน จะหยุดเดือดทันทีปล่อยเอาไวัเช่นนั้น จนกระทั่งเริ่มเดือดขึ้นมาอีก จนกระทั่งเดือนพล่านลดไฟให้เดือดอ่อนๆ เคี่ยวไปสัก 1 ชั่วโมงก็เปิดผาหม้อเอาไว้จนกระทั่งเย็น

เนื้อจะเปื่อยกำลังพอดี ใช้การได้ ไม่เปลืองแก๊ส ไม่เสียเวลา เอาเนื้อเปื่อยนี้ไปปรุงเป็นเกาเหลาเนื้อเปื่อยหรือเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยได้ทันที วิธีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจากร้อนจัด เป็นเย็นทันทีทันใดนี้แหละ ที่สร้างผลดีทำให้เซลล์ต่างๆ นั้นเปื่อยได้

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

น้ำชุปสำหรับการปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

น้ำชุปสำหรับการปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ดี

น้ำซุปสำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อนี้ก็เช่นเดียวกับน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมู จำเป็นจะต้องพิถีพิถันในการปรุงกันอยู่พอสมควร เนื้อนั้นก็ไม่ใช่หมู และหมูก็ไม่ใช่เนื้อ เนื้อวัวหรือเนื้อควายนั้น จะออกรสชาติที่แตกต่างกว่าเนื้อหมูมากมาย ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น กลิ่นของเนื้อวัวหรือเนื้อควายมีกลิ่นรุนแรงมากกว่าเนื้อหมู ด้วยเหตุนี้เอง การปรุงแต่งรสชาติของน้ำซุปสำหรับการปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อจึงแตกต่างกว่าการปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูพอสมควร

การปรุงน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวเนื้อนั้น จำเป็นที่จะต้องเอากระดูกวัวมาต้มเป็นน้ำซุปเช่นเดียวกันกับการปรุงน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมู เคล็ดลับที่น่าสนใจและน่าศึกษาในการปรุงน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวเนื้อนั้น บางท่านก็ปกปิดกันมากมาย บอกว่าถ้าจะซื้อกันก็จะต้องมีราคาเป็นแสนๆ ทีเดียว มากมายเหลือเกิน แต่ในที่นี้ ท่านที่สนใจ น่าจะไม่ต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น หากจะใช้ก็เอามาให้ผู้เขียนภาณุทรรศน์ เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ว่ากันหรือเพียงบอกเอาไว้ที่ร้านว่าเอาสูตรพิเศษนี้มาจากผู้เขียน ผู้เขียนก็คงจะหน้าชื่นตาบานไปจนนอนไม่หลับแล้ว

ลองมาพิจารณาดูน้ำซุปสำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อกันต่อไปดังนี้

เครื่องปรุง

กระดูกเนื้อ 3-4 ดุ้น

เหง้าข่าแก่ ทุบพอแตก 100 กรัม

อบเชยเป็นชิ้นๆ ยาว 2 นิ้ว 1 ชิ้น

รากผักชี มัดรวมกัน 100 กรัม

เกลือป่น ½ ถ้วยตวง

ก้านพลู 10 ดอก

ใบกระวาน 5 ใบ

น้ำตาลกรวด บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 2 ถ้วยตวง

ซีอิ้วขาว 2 ถ้วยตวง

กระเทียมทุบ 5 หัว

เมล็ดพริกไทยดำ โขลกหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำสะอาด 1 หม้อก๋วยเตี๋ยว

วิธีปรุง

น้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวเนื้อนี้ก็เช่นเดียวกันกับการปรุงน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมูนั่นเอง ไม่ยุ่งยากอะไรนักหนา เมื่อเครื่องปรุงกลิ่น รสมีครบถ้วนแล้ว

เอาน้ำสะอาดใส่ลงไปในหม้อก๋วยเตี๋ยวที่เป็นมาตรฐาน ไม่เล็กไม่ใหญ่ ยกขึ้นบนเตาไฟ จัดการเคี่ยวกระดูกเนื้อรวมกับเครื่องปรุงต่างๆ ที่แนะนำให้เดือดโดยเร็ว จากนั้นลดไฟลงให้เดือดอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ สัก 2 ชั่วโมง หากน้ำแห้งก็เติมน้ำอีกให้ได้ในระดับเดิม นี่ก็เป็นสูตรสำคัญของน้ำซุปชั้นเด็ดของก๋วยเตี๋ยวเนื้อ จำผู้เขียน (ถ้าสงสัย โปรดโทรศัพท์ไปคุยกันได้ที่ โทร. 02-434-3798 หรือ 01-479-7669 จะได้สาธยายสิ่งที่เด็ดๆ ออกมาให้กระจ่างกันไป